HydroWeekly .:: [Powered by Siam2Web.com รับทําเว็บไซต์ ทำเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ฟรีเว็บไซต์ สร้างเว็บไซต์]

ข่าวเก่า	11 สิงหาคม 2552 วันแม่ ครับผม..
	ยังเหมือนเดิมอาทิตย์ที่ 3 (21 วันแล้ว) ผักก็ขนาดกระจุ๊มกระจิ๊มพวกที่อยู่ในราง NFT จะเป็นผักสลัดทั้งหมด.. ยกเว้น ต้นที่เพาะไว้ประมาณ 1 เดือนแล้ว.. ส่วนผักไทย จะโตไวกว่า อยู่ในราง DRFT แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ราง NFT จะทำให้ผักโตช้ากว่า แต่เป็นเพราะ ผักไทย มีอายุและระยะเก็บเกี่ยวสั้นกว่าผักสลัด..มันถึงได้ถูกกว่าไง..
	ทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำ กับ ความเข็มข้นของสารละลายกันซะ หน่อย..ก็เฉพาะคนที่มีอุปกรณ์นะครับ..ที่ต้องตรวจก็เพราะ 1 ถังสารละลายเรา ถ้าไม่ปิดฝาถัง แล้วก็ช่วงนี้ ฝนตกบ่อยๆด้วย..ความเข็นข้นของลารละลายก็จะเจือจางลงไป แต่ถ้าลูกค้าที่ ปิดฝาถังมีอะไรคลุม มิดชิด ก็ทำเพียงแค่เติมน้ำ ลงไป นิดหน่อย ก็พอ.. โดยประติแล้ว ถ้าผักโตเต็มที่ 1 ต้น ก็จะคายน้ำประมาณ 20-50 CC ต่อวัน ขึ้นอยู่กับอากาศรอบๆ..น้ำในระบบก็จะ หายไปด้วยเช่นกัน..แต่ถ้าเป็นไม้ผลล้มลุกละก็.. 200-500 CC ต่อวันเลย เฉพาะในช่วงที่มีผลผลิต..ตย.มะระหน้าบ้าน สองวันต้องเติมน้ำที.. (ตามรูปเป็นความเข้มข้นของสารละลาย แปลง DRFT ผักคน้า)
	ในบรรดาผักไฮโดรเนีย..ผมชอบผักพื้นบ้านเราที่สุด..ดูแลง่าย โตไว อัดสารละลายเยอะกว่าปรกตินิดหน่อย..แค่นี้ก็โตวันโตคืนแล้วครับ.. อย่างผักคน้า,กวางตุ้ง,ผักกาดขาว หรือจะเป็นผักบุ้ง..พวกมือใหม่อย่างผม ถนัดที่ซู๊ด..ทดแดด ทดฝน (เหมือนโฆษณาสีทาบ้าน "ศรีทดด้าย"..!)

สวนผักหลังบ้าน ก็ให้นายจอม ทำการ ขึ้นโครงไม้เลื้อยไว้...เพื่อเอาไว้ปลูกไม่เลื้อย ที่ผลรับทานได้หลายๆชนิด..ระยะหวังผล พรึบพรับ..ก็คงจะประมาณ 1 เดือน จากรูปที่เห็น ประมาณ 10 วัน.แล้ว ....

	มะระที่เคยเห็นกันไปเมื่อก่อนหน้านี้สัก 3 อาทิตย์ มาบัดนี้มัน โตขนาดเนี้ยแล้ว..ส่วนต้นเก่า ที่เราเคยไปงานแต่งงานมะระกันไปแล้วนั้น..คิดว่า อีก สัก 1-2 เดือนก็จะโล๊ะแล้ว..กินน้ำเก่งมาก วันละ 1-1.5ลิตร..ใครที่ซื้อชุดปลูกมะระไปก็อย่าลืมเช็คน้ำกันด้วยนะครับ..เด็วมันจะม่องเท่งซะก่อนเพราะน้ำแห้ง..
	พูดถึงมะระหน้าบ้าน..เคยมีคนทักไว้เหมือนกันว่า มันฮวงจุ้ยไม่ดีจะทำให้สมาชิกระหองระแหงกันบ่อยๆค้าขายก็ไม่ดี..อืมก็น่าคิด แต่สำหรับนายไฮโดรมือใหม่แล้ว.. การที่คนเราจะระหองระแหงกันนั้น น่ามาจาก การที่เรามีเรื่องอะไรในใจแล้ว ไม่พูดคุยกันรวมไปถึงการที่เราคิดไปเองว่าเขาจะเป็นอย่างโน้นจะเป็นอย่างนี้ รวมไปถึงการมองที่ผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้งจนลืมวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการอยู่รวมกลุ่มกันซะละมากกว่า..ส่วนเรื่อง การค้าขายไม่ดี อันนี้ ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ๆ ถ้าเรามีลูกค้า สัก 10 รายและ 10 รายนี้ ซื้อของเราสัก 8 เจ้า กับ การที่เรามีลูกค้า 100 ราย แล้วซื้อของเรา เพียง 5 เจ้า อันนี้ ก็สท้อนให้เห็นถึง ความตั้งใจในการ ทำงานซะมากกว่า ส่วนความตั้งใจนั้น ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความดีงามซื่อสัตย์ ต้องไม่เห็นแก่ได้จนเกินไป แล้วถ้ามันจะทำให้กิจการขาดทุนไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะ นายไฮโดรมือใหม่..ไม่ได้เป็นคนลงทุน..555555 จุ๊ๆ พูดมากเด็วเวปนี้โดนปิด..
	ย้อนมาดูมะเขือเทศเรากันซะหน่อย..มาบัดนี้ มันออกดอกแล้ว..แต่ไม่รู้จะเหมือนกับ คราวที่แล้วไหม ที่ มีแต่ดอกแต่ไม่ติดผลเลย...ก็ต้องรอลุ้นกัต่อไป..ออลืมไปคราวนี้เราเติมสาร C.(สารความลับ..? ที่จริงจำไม่ได้แล้วว่าเรียกอะไร..นายเอก ผสมมาให้....)
ส่วนเรื่องที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ก็คือ นักเรียนของเราส่นหนึ่ง ประมาณ 160 ต้นได้ทำการ ย้ายโรงเรียนไปอยู่ อยุธยากัน เพราะ มีลูกค้า มาซื้อชุด 3 เมตร 156 ต้นไป โดย จะนำไปปลูกเพื่อโชว์ นักท่องเที่ยว ที่ ตลาดน้ำคลองสระบัว...(คราวหน้าผมจะทำสคุ๊ป ตลาดน้ำคลองสระบัวมาเสนอ ตอนนี้ ทำไม่ทั้นครับ..) โดยจะทำการทดลองปลูก ดูก่อน 1 ชุดก่อนว่าขึ้นดีไหมและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพียงไร..แต่จากการที่เราไปส่งของและทำการ ตรวจสอบสภาพภูมิประเทศและคุณภาพน้ำที่จะใช้ พบว่า เรื่องแสงแดด ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะ มีจุดที่สามารถเปิดโล่งรับแดดได้เต็มๆ ส่วนเรื่อง ความร้อนของน้ำในระบบ หายห่วงเพราะ เป็นพื้นไม่ไผ ที่มีคลองอยู่ข้างใต้
	ส่วนที่น่ากังวลน่าจะมาจาก คุณภาพน้ำที่ใช้ เนื่องมาจากการวัดค่า PH และ EC ของ พบว่า PH ของน้ำ ประมาณ 7.0-7.4 พออ้อมแอ้มไปได้..แต่ EC กับกระโดดไปถึง 1.4 จากที่น้ำประปาแถวบ้าน(ในกทม.ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 0.2-0.4 เท่านั้น..)ทำให้เราสงสัยกันว่า มันมีอะไรอยู่ในน้ำก่อนหน้านี้แล้ว..ดังนั้นสารละลายที่ให้ไปก็อาจจะไม่เหมาะ สมกับ น้ำที่ลูกค้าใช้ปลูกกันอยู่..ในฐานะคนขายก็เลยแนะนำลูกค้าให้แก้ไขได้2แนวทางคือ ..1..นำน้ำ ตย.ไปวิเคราะห์ถึงสารละลายแฝงที่อยู่ในน้ำแล้วทำการปรับสูตร สารละลายให้เหมาะสม...กับ..2 หาซื้อน้ำที่สะอาดจากในเมืองมาใช้ในระบบแทน..อันนี้จะง่ายกว่ามั้ง..ส่วนสมาชิกท่านใดอย่างรู้จัก ตลาดน้ำคลองสระบัวเพิ่มขึ้น ก็ลอง คลิ๊กตามลิ้งนี้ไป ดูละกันนะครับ..
http://www.ayutthayafloatingmarket.com/	http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7871993/E7871993.html

ข่าวเก่าประจำวันที่ 27/07/2552	เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา..24/07/52 วันภัยพิบัติโรงเรียนผักไฮโดร..เมื่อเวลา 18.20 ณ.นายจอม ภารโรงของโรงเรียน ไม่อยู่ ต้องออกไปปฎิบัติภาระกิจ นอกสถานที่ ทำให้เหลือแต่ผมเฝ้าร้านอยู่คนเดียว..อันที่จริงแล้ว เวลานี้ โดยปรกติแล้วมันต้องสว่างอยู่ แต่วันนี้ ท้องฟ้ามืนครึ้ม เงาทมิฬเข้าครอบงัมน่านฟ้าโรงเรียนผักไฮโดร..จนครูใหญ่อย่างผมต้องวิ่งวุ่น..เปิดไฟ..หาพลาสติกกันฝน..หาร่ม โดยที่ยังไม่ทันหาได้ครบ..จุ่ๆฝนก็เทกระหน่ำ..
	ภัยพิบัติโรงเรียนผักไฮโดร.. เผล็บเดียวเท่านั้น นายไฮโดรมือใหม่ ก็ต้องหลบฝน ไม่อาจจะต้านทางพายุที่ฐาโถมเข้ามาได้..ขนาดคนยังสู้ไม่ไหว.แล้วผักเด็กๆ 10-15 จะเหลืออะไรเล่า..พอหลบผนเสร็จ แต่ในใจก็ยังเป็นห่วงเหล่า นักเรียนใหม่..ว่าจะผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้ไหม..
	ก็ยังอุตสาห์เยียมๆมองๆ ออกไปนอกหน้าต่างๆ ชำเลืองไปที่ รร.ประถมก่อน เพราะเป็นห่วงมากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อ..ผมไม่เห็นอะไรนอกจาก สายน้ำที่กระหน่ำลงมา..ครูใหญ่คนนี้คงได้แต่เอาใจช่วย...สาธุสาธุ..รอดเยอะๆนะ..
	สายตาของผมก็พยายามเพ่งมองออกไปยัง รร.อาชีวะผักไฮโดร กับ วิทยาลังการอาชีพผักของผม เสียงน้ำฝนกระทบหลังคาโรงเรียน..(แผน่โฟมปลูก DRFT) ดังสนั่นหวั่นไหว ผมอ้อมไปด้านหลัง เพื่อทำการเปิดไฟสนามจะได้มองเห็นชัดๆ..อืม..นร.ใหม่ใน รร.อาชีวะทั้งสอง ยังคงสู้ฟ้าสู้ฝนกันอย่างไม่ย่อท้อ..เก่งจริงผักไทย..ฝนหยุดเมือไหรจะออกไปหอมแก้ม เด็กให้กำลังใจกันฟอกใหญ่ๆเลย.. หมดห่วงไปสำหรับ เด็กใน รร.อาชีวะทั้งสอง ถัดออกไปไม่ไกล มหาวิยาลัยผักไฮโดร ผม
	...เฮ้อ..เห็นแล้วก็สะท้อนหัวใจ..ทำไมหน่อพวกเจ้าช่างโชคร้ายจริงๆ..เปิดเทอมไม่กี่วัน ยังไม่ทันได้เรียนรู้หลักสูตรสู้ฝนกันเลย..ก็ต้องมาประสพเหตุ ซะก่อน เจ้า Cos , บัตเตอร์ และ สปาต้า โดยธรรมชาติของมัน แล้ว แกนกลางของใบค่อนข้างจะแข็งแรง คงไม่น่า ห่วงสักเท่าไร..จะเป็นหวัดไม่สบายไปบ้าง..ถ้าฝนทิ้งช่วงฝนสัก 2-3 วัน มันก็จะฟื้นกลับมาเป็นปรกติเอง..แต่..เจ้า เรด กะ กรีน โอ๊ค เนี่ย..อ่อนแอมาก ใบของมันพอโดนน้ำมากๆ จนใบ ลู่ลงมาแตะขอบราง..มันก็เหมือนกับ เอากาวไปทาใบกับรางติดกันไว้เลย ..ดีนะที่เป็น NFT พลาสติกไม่อุ้มน้ำเท่าไหร และก็โครงท้องรางมีความลาดเอียง..ก็เลยทำให้น้ำฝนไหล เลยออกมาได้..แต่..ก็ไม่หมดซะที่เดียว..พอฝนหยุดเมื่อไหร ก็ต้องไปปฐมพยาบาลโดยการ ดึงถ้วยปลูกขึ้น เพื่อให้ใบที่ติดกับรางปลูกโดยมีน้ำเป็นตัวขั้นกลางหลุดออกมา..

หลังฝนหยุดครูใหญ่อย่างผมก็ต้องลงไปสำรวจความเสียหาย..จะเป็นอย่างไรบ้าง ก็ดู ตย.รูปทางขวาละกัน ก็ต้องขอขอบพระคุณมูลนิธิ ไฮโดรตึ้ง..ที่เอื้อเฟื้อรูปมาให้ผมได้เอามาลงให้ดูกัน
	กลับไป What New

Advertising Zone Close