วันนี้ขอเสนอชุดปลูกราคาถูก..ทำเองง่ายๆ |
DFT Set6 |
จากการที่มีผู้สนใจถามไถกันมาเยอะ..หลายคนอยากเริ่มต้นปลูกผักไฮโดรฯ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน วันนี้ นายไฮโดรมือใหม่..ขออนุญาติแนะนำ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น..แต่ไม่อยากเปลืองตังค์ ง่ายๆ อธิบายกันแบบ คนไม่เป็นสอนคนไม่เป็น..5555
ก่อนที่เราจะทำการปลูกผักไฮโดรฯ เราควรรู้องค์ประกอบสำคัญๆก่อน.แต่...! ผมจะไม่ขอกล่าวถึง คำว่าไฮโดรโปนิกส์ จะไม่อธิบาย เรื่อง สารละลาย ไม่อธิบายถึงระบบปลูกต่างๆ ไม่มีอะไรที่เป็นวิชาการ ถ้าจะอ่านเพื่อไปทำรายงานส่งครู ก็ไม่แนะนำให้อ่านต่อครับ..
|
|
ปลูกผักไฮโดรได้ก็ต้องมี |
|
1.เมล็ดพันธ์ผัก ตามจำนวนที่ อุปกรณ์ปลูกเรามี ให้ |
|
2.อุปกรณ์เพาะเมล็ด..จะเป็นฟองน้ำเพาะ เพอร์ไรท์ ก็ได้แล้วแต่สะดวก..ถ้าจะใช้ฟองน้ำผมก็แนะนำให้ใช้ฟองน้ำที่ไม่มีสารวาปไฟ..! เพราะถ้าเป็นฟองน้ำทั่วๆไปจะเพาะไม่ขึ้นครับ.. |
|
3.ถ้วยพลาสติกสำหรับ ฟองน้ำปลูก หรือ ถ้วยปลูกเขี่ยวสำหรับใช้กับ เพอร์ไรท์ |
|
4.ถาดหรือกาละมังเล็กๆไว้สำหรับรองรับการรดน้ำตอนเพาะต้นอ่อน.. |
|
5.กล่องโฟม พร้อมฝาปิดมิดชิด..ห้ามรั่วนะ..ถ้าซื้อมารั่วก็ไปขอเปลี่ยน ซะ..จะใช้กล่องพลาสติกได้ไหม..คำตอบคือได้..ถ้าคุณสามารถ เจาะถังพลาสติกให้เป็นรูกลมๆ ขนาด 1.4 นิ้วได้..ง่ายๆ.ผมเคยลองแล้วเจ้ากล่องพลาสติกเนี้ย..หมดยาแดงกะพลาสเตอร์ไปหลายแผ่น..ก็เลยไม่อยากแนะนำครับ. |
|
6.ชุดอ๊อคตู้ปลา..ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก..บอกคนขายว่าจะใช้กับตู้ปละขนาดประมาณ 20 นิ้ว พร้อม หัวฟู่ สัก 2 หัว..กับ3 ทางแยกสาย หรือจะใช้อย่างในรูปก็ได้ แพงหน่อย แต่ จ่ายอากาศทั่วถึงดี.. |
|
7.สารละลายสำหรับปลูกพืชไม่ใช้ดิน..อันนี้มาหาซื้อที่ร้านได้ครับ.. |
|
8.อันนี้สำคัณหน่อย..แต่คิดว่าหาไม่ยาก...น่ำก็อก ครับ..ถ้าน้ำก็อกไม่มี ก็น้ำหยอดเหรียญก็ได้ ห้ามใช้นำบ่อ น้ำบาดาล น่ำตก น้ำฝนกรุงเทพก็ไม่แนะนำครับ..น้ำดีก็มีชัยไปกว่าครึง.. |
|
9.ปลั๊กไฟ..ต้องมีไฟฟ้า ด้วยนะครับ..ปลั๊กเฉยๆใช้ไม่ได้ครับ..ต้องเป็นปลั๊กที่ได้รับการจ่ายค่าไฟไปแล้วอย่างสม่ำเสมอ..มิฉนั้น..การไฟฟ้ามาตัดไฟไปก็จะกลายเป็นปลั๊กเปล่าๆทันที..อันนี้ต้องระวัง.. |
|
10.อุปกรณ์ลดทอนแสงอาทิตย์..ชาวบ้านเรียกกันว่า สะแลน..! เอาไว้คลุมตอนแดดจัด.. |
|
11.อากาศปลอดโปร่งมีลมถ่ายเทได้ดี และ แสงแดด พอประมาณ หน้าหนาวดีที่สุด หน้าร้อนไม่แนะนำให้ปลูกในชุดนี้ครับ..เปลืองตังค์ค่าสารละลาย ยกเว้นว่า สถานที่ตั้งไม่โดนแดดแรงเกินไป และ ขยันเอาขวดน้ำแข็ง ปิดฝาสนิดมาหย่อนใส่ลงในถังสารละลายบ่อยๆ ตอนแดดเปรี้ยงๆ..ส่วนหน้าฝน ก็ควรจะหมั่นการ่มให้มันเวลาฝนตก..(เรื่องมาจังวุ้ย..ก็เป็นธรรมดาละครับ..ชุดปลูกทำเอง จะเอาดีอะไรกันนักกันหนา..ไม่งั้นชุดปลูกเป็นหมื่นเขาก็ขายกันไม่ได้พอดี..?) |
|
ต่อไปเป็นขั้นตอนในการทำ กล่องปลูก.. |
|
1.กล่องโฟมที่ ซื้อมาก็เจาะรู ตามภาพ นะครับ..การเจาะรูชิดเกินไป จะมีผลทำให้ผักไม่โตครับ..มันเบียนเสียดยัดเยียด กันเกินไป ควรจะห่างกัน อย่างน้อย ก็ 15 ซม.ทีนี้จำนวนต้น จะได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดของกล่องละครับ..ตามตัวอย่าง จะเจาะได้ 6 รูเท่านั้น..ก็คึอปลูกได้ 6 ตั้นเท่านั้น..และถ้ายิ่งกล่องใหญ่มากๆ น้ำและสารละลายเราก็ต้องเติมมากตามไปด้วย แล้ว ไอ้เจ้ากล่องใหญ่เนี่ย มันหมายถึงน้ำหนักตอนเติมน้ำลงไปเต็มๆเพิ่มขึ้นอีกมากด้วย มันก็เลยส่งผลในกล่องปริแตกได้ง่ายด้วย.. |
|
2.ประกอบชุด อ๊อค ตามรูปเลยครับ..ตัวปั้มนี่ต้องเอาไว้นอกกล่องปลูกนะครับ..อย่าเอาใส่ไปในกล่องนะ..ไฟจ๊อต..มะรู้ด้วย..แล้วก็ต้องวาง อ๊อคให้สูงกว่า เหนือระดับกล่อง เพือเป็นการแบ่งเบาภาระอ๊อค อีกแรงนึง..เพราะถ้าอ๊อคเราไม่แรงพอ น้ำมันจะไหลย้อยสวนลงมาในเครื่อง อ๊อคเราได้.. |
|
3.ต้วพ่นอากาศก็หาอะไรถ่วงไว้ซะหน่อยก็จะดี มิฉนั้นมันจะลอยขึ้นมา..การเติมอากาศใน สารละลายเราก็จะล้มเหลว..
เป็นอันพร้อมแล้วสำหรับกล่องปลูกเรา..
|
|
|
ถึงตอนสำคัญแล้ว..ฉานจะปลูกผักละนะ.. |
เพื่อให้ง่ายผมขอแบ่งการดำเนินการของเราออกเป็น 3 ช๊อต ดังนี้ครับ..
ช๊อตที่ 1 การเพาะเมล็ดและเลี้ยงต้นอ่อน..
ช๊อตที่ 2 การนำต้นกล้าลงปลูกในกล่อง..จากนั้นดูแลและรอคอย..
ช๊อตที่ 3 การเก็บเกี่ยว...(มี 6 ต้น มันจะยุ่งยากอะไรนักหนา)
|
|
|
ช๊อตที่ 1 การเพาะเมล็ดและเลี้ยงต้นอ่อน.. |
ช๊อตนี้ กินเวลาประมาณ 10-15 วัน |
เพาะด้วยฟองน้ำ..(อันนี้ง่ายกว่าเพอร์ไลท์สอนอันนี้ละกัน) |
|
ให้บีบฟองน้ำแล้วจ่มน้ำเปล่าให้ฟองน้ำอิ่มตัวก่อน..เอาน้ำที่เรากินเนียละดีที่สุด เพราะถ้าน้ำ ไม่สะอาด มีพิษ หรือ เป็นกรดเป็นด่างสูง เราก็จะได้เป็นอะไรก่อนที่น้องผักผักน้อยจะเป็น..ความคิดเยี่ยมเลย..?
จากนั้นก็นำไปว่าไว้ในถาดที่เราตั้งใจจะใช้เพาะ..แล้วทำการหยอดเมล็ดพันธ์ลงตรงกลาง(รอยผ่าที่กลางฟองน้ำ..ที่เขาทำไว้ให้แล้ว..) เวลาเพาะ ไม่ต้องเอาไปตากแดดก็ได้..ให้มันอยู่ในร่ม ลมพัดผ่านเย็นสบายใจ ก็พอแล้ว..
|
|
หมั่นลดน้ำเช้าเย็น..แต่อย่าให้โชกมากนะเด็วเน่า..จนมันงอก |
|
ประมาณไม่เกิน 4-5 วันมันก็จะงอกออกมา..จิ๋วๆ อย่างในภาพอะครับ...แพ่งๆ ดูกันหน่อยละกัน..มี ใบเลี้ยงอ่อน 2ใบ
พอมันงอกกันครบ 6 ต้นแล้วก็นำมันไปอยู่ในกระถางพลาสติก
|
|
เวลาใส่ฟองน้ำเข้าในถ้วยดำพลาสติกเนี่ย เรานิยมเอาตรงใบผักน้อยของเรา สอดขึ้นจากรูที่ก้นถ้วย ให้มันค่อยๆโผล่ออกมาทางปากถ้วย (ที่ทำอย่างงี้ก็เพราะรากมันจะได้ไม่พับและชอกช้ำระกำทรวงเกินไป..) |
|
จากนั้นเราก็นำมันไปรอยคออยู๋ในกาละมัง แล้วหมั่นรดน้ำเช้าเย็นโดนแดดรำไรๆ จากในรูปที่เพาะเยอะก็เพราะ กันเหนียว ไม่ขึ้น หรือ มันอาจจะตายไปก่อนวัยอันสมควร..
ระวังอย่าให้น้ำท่วมสูงเกิน 1 ซม.แล้วอย่าตั้งตากแดด เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำที่ขังร้อนเกินเด๋วรากเน่ากันพอดี..
แล้วก็ให้มันอยู่อย่างเงี้ย..ไปประมาณ 10 วัน..จนรากของมันยาวโปร๊นแปร๊น..มีใบจริงออกมา นับรวมกันได้ไม่ต่ำกว่า 4 ใบ มันก็พร้อมไป ช๊อต2..(สังเกตุ..ผมยังไม่ได้ใช้สารละลายเลย..ใช้น้ำเปล่าอย่างเดียวก็พอ..)
|
|
ช๊อตที่ 2 การนำต้นกล้าลงปลูก |
ช๊อตนี้ กินเวลาประมาณ 21-30 วัน
หลังจากเวลาล่วงเลยมาประมาณ 10-15 วัน สิ่งที่ต้องทำก็คือ ..ไปเดินด่อมๆมองๆหาทำเลปลูกผัก ก่อน..โดย..จะต้องทำการ ลากสายไฟไปแถวนั้นด้วย..ทีนี้ เจ้าทำเลเนีย..มีผลต่อการปลูกมาก..ผักจะโตสวย ยืดยาว เหี่ยวเฉา หรือ เน่าตาย..ผลก็มาจากทำเลด้วยส่วนหนึ่ง..ทำเลที่ดีควร จะเป็นที่โล่งมีแดดส่งถึง แต่ไม่จำเป็นต้องทั้งวัน มีอากาศถ่ายเทดี ถ้าปลูกในมุมอับๆ นอกจากผักจะไม่โตแล้ว ใบก็จะยืดยาวๆ ลีบผมเรียวเล็ก และก็สามารถหาอะไรคลุมได้เมื่อตอนที่ฝนตก เพราะผักเด็กเนี่ยใบอ่อนแอมาก..โดนฝนนิดหน่อยก็จะเป็นหวัดกันหมด..(ใบจะช้ำและขาด)
|
|
ผักที่เราเพาะไว้ 10 โดยปรกติก็จะมีขนาดประมาณนี้..สังเกตุที่ก้นถ้วยปลูกด้วยว่า มีราก ยืดยาวออกมาหรือยัง..ถ้ามียืดออกมาแล้ว สัก 2 ซม. ก็ใช้ได้แล้ว.. |
|
|
แล้วก็ควรจะมีใบอ่อน 4 ใบเป็นอย่างน้อย...มีเยอะๆ จะได้ช่วยกันทำมาหากิน..โตไวๆ นะ นู๋ๆ |
|
อยากให้สังเกตุเทคนิกการใส่ฟองน้ำในถ้วยปลูก ฟองน้ำจะล้นออกมาจากก้นกระถางประมาณ 0.5 ถึง 1 ซม..ก็เพื่อ เวลาที่เราเติมน้ำลงในกล่องปลูก ต้องให้ระดับน้ำแตะถึง ฟองน้ำด้วย มีฉนั้น รากพืชจะไม่ได้รับน้ำเลย..อันนี้ต้องระวังกันให้ดี.. |
เติมน้ำเปล่า ลงในกล่องโฟม ให้เต็ม แต่ห้ามล้นนะ..ดูจากภาพ แล้วเราก็ลองเอา ฝาปิดลงไป พร้อม เอา ถ้วยปลูกที่มี ต้นอ่อน ลอง จิ้มลงไปในรู แล้ว ยกถ้วยออกมา สังเกตุดูว่า มีน้ำหยด ออกจากฟองน้ำใหม่..ที่ทำก็เพื่อให้รู้ว่า ฟองน้ำเรา สัมผัส หรือ แช่อยู่ในนำบางส่วนหรือไม่ ..ระวังอย่าให้น้ำท่วม ฟองน้ำเรามิดนะ..รากพืชจะไม่ได้รับอากาศ ...! |
|
เมื่อ หยอดต้นอ่อนลงทั้งหมดแล้ว ก็เสียไฟ เติมอากาศเข้าระบบ ทิ้งไว้แบบนี้ อีกสัก 2-3 วันก่อน..ช่วงนี้ก็หมั่นมาดูมันบ้าง ลองเปิดฝาออกมาดูว่า ฟองน้ำต้นอ่อน ทุกต้นยังสัมผัสกับระดับน้ำ อยู่ตลอดเวลา..
เรายังไม่เติมสารละลาย..ให้มันกินน้ำเปล่าไปก่อน..
|
|
หลังจากที่เราได้นำต้นอ่อน 6 ต้นลงปลูกในกล่องโฟมแล้ว..สิ่งที่ต้องทำเป็นประจำก็คือ เปิดฝากล่องโฟมดูว่า ระดับน้ำแห้งลงไปไหม..อันนี้ สัก 4-5 วันดูครั้งก็ได้..แล้วก็อย่าลืมชำเลืองเมืองมอง อ๊อคเราด้วยนะว่ามันยังคงปรกติสุชดีอยู่... |
|
พอวันที่ 7 หลังจากที่เราได้ทำการ ปลูก สมาชิกผักหกต้นเราก็คงจะประมาณ รูปนี้ละครับ..เล็กบ้างใหญ่บ้างก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละบ้าน...จากนั้นก็เตรียม สารละลาย ขวด A...(สีเขียว) ประมาณ 100 CC.(ถ้าบ้านไหนไม่มี สลิ้งดูสารละลาย ก็ใช้วิธีกะเอาจากภาชนะที่เราจะเอามาตวง) ใส่ลงในถังโฟมพรวดลงไป..ปิดฝาคืน แล้วก็ รอพรุ่งนี้ มาว่ากันใหม่.. |
|
อันที่จริงแล้ว เจ้าสารละลาย 2 ขวดที่ซื้อมาจากร้านเนี่ย โดยธรรมชาติของมันแล้ว จ๊ะเอ๋ กันซึ่งๆหน้าไม่ได้..มันจะรวมตัวกัน แล้วจะทำให้น้ำในระบบเราขุ่นได้..เขาว่ากันว่า ให้ทิ้งระยะห่างกันสัก 4 ชม.เป็นอย่างน้อย แล้วค่อยใส่อีกอย่างลงไป...ในปริมาณที่เท่ากัน..(100CC.) เพื่อความชัวร์ ผมก็เลยให้มันข้ามวันละเลย..แล้วถึงใส่สารละลาย B อีก 100CC.(สารละลายที่ซื้อมาเนี่ยเขาผสมมาเพื่อความเข้มข้นในอัตราส่วน 5cc ต่อ น้ำเปล่า 1 ลิตร..อ่านที่ข้างขวดดูก็ได้ครับ..)
|
|
ที่เหลือจากนี้ก็เพียง คอยตรวจดู อ๊อคเราว่ายังทำงานอยู่ พร้อมทั้ง 3-4 วันก็มาดูระดับน้ำทีนึง..สัก 15-20 วัน เมือเปิดฝาออกมาดู จะเห็นรากในระบบ เป็นดังรูป..ให้เรา ลดระดับน้ำลง กะว่าให้รากลอยอยู่ในอากาศสัก 1 นิ้วก็พอ..เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการหายใจของผัก ส่วนน้ำในระบบที่เราตวงออกมา ถ่ายใส่ขวดไว้ก่อน..เก็บใว้ในที่ร่ม ไว้คอยเติมตอนระดับน้ำในระบบมันลดลง..จากนั้นก็รอมันเติบโตไปเรื่อยๆ อีก 2-3 อาทิตย์ |
|
|
ช๊อตที่ 3 การเก็บเกี่ยว |
ช๊อตนี้ กินเวลาประมาณ 1-2 วัน |
|
|
นับจากที่เราเริ่มเพาะต้นอ่อนงอกแล้ว จนถึงวันนี้ ก็ประมาณ 45-60 วัน..ก็ถึงเวลาเชือดแล้ว..5555...ให้เราทำการดูน้ำสารละลาย ออกจากระบบให้หมดเลย..(เก็บใส่ถังไว้..) จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป กะพอให้ท่วมราก ทุกต้น.เหลือระยะห่างจาก ก้นกระถางปลูก(สีดำ)สัก 1 นิ้วเหมือนเดิม..สาเหตุเด๋วผมจะบอกในตอนท้ายครับ.. |
|
อีก 2 วันก็มาเล็มใบที่เราอยากกิน ออกไปได้ละครับ..จะถอนรากถอนโคนมันทั้งหมด แล้วเอามาทำสลัดทาน หรือ จะเร็มออกมา กะพอเราทานคนเดียวก็ได้..เราสามารถทำอย่างงี้(ตัดใบออกมาทาน)ได้ถึง 10 วันเลยครับ..เพราะถ้านานกว่านี้ใบผักเราจะเริ่ม ซีดเหลือ อ่อนแอ กินไม่อร่อยแล้ว โล๊ะออกไปเลย แล้วก็เริ่ม กระบวนการปลูกใหม่ได้ละครับ.. |
|
สำหรับคนที่มองการไกล และต้องการปลูกใหม่อย่างต่อเนื่อง..ก็คือ ตอนที่เรา ถ่ายสารละลายออกแล้วเติมน้ำเปล่า ก็เพาะต้นอ่อนใหม่ได้เลย..เพาะหลังจากที่เราเริ่มทยอยกินมัน 10 วัน ต้นอ่อน รุ่นที่ 2 ก็โตพอที่จะเริ่มทำการปลูกใหม่ได้อีกรอบ หรือถ้าเราจะใช้วิธี การเก็บออกมากินที่เดียวทั้ง 6 ต้นก็ควรจะเพาะก่อน คือหลังจากที่ปลูกไปแล้ว 40 วันก็เริ่มเพาะรุ่นที่ 2 ได้เลย.. |
|
แต่ต้องการมีผักกินต่อเนื่องทุกๆวัน ก็ต้องมี กล่องโฟมอย่างเงี้ย อีกสัก 3-4 ชุด กะเวลาให้มันคาบเกี่ยวกันดีๆ คุณก็จะมีงานอดิเรกให้ทำทุกวัน เป็นภาระที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างละครับ..555 |
จากที่เราต้องทำการถ่ายสารละลายออกไปก่อนแล้วเติมน้ำเปล่า ลงไปแทนที่ ก็เพื่อให้พืชใช้แร่ธาตุสารละลาย สะสม ต่างๆที่อยู่ให้หมดไปก่อน..พวกที่มีความรู้เขาบอกว่าเพื่อให้พืชใช้ไนโตรเจนให้หมดก่อน แต่ผมมาลองพินิจพิเคราะห์ดู ผักที่เราซื้อมาจากตลาด มันจะทำไงละหว่า หรือชาวสวนเขามีวิธีเอาไนโตรเจนออกจากผักได้..ผมก็เลยไปสวนผักแถวบ้าน..ไปถามชาวสวนดู...เขาบอกว่า ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย..ตัดๆกองๆไว้เด๋วพ่อค้าก็มารับซื้อไป..แสดงว่า ทั้งผักปลอดสาร หรือ ผักร่องสวนเอง ก็ยังไม่ปลอดสาร 100%เต็ม..ดังนั้นอย่าไปสนใจมันมากเลยเด๋วอดกินของอร่อยไม่รู้ด้วย.. |
|
|
หมดแล้ว DIY.ชุดกล่องโฟม..รอ up รูปสัก 2-3 วันนะครับ..พอดีกล้องตัวเก่งไม่อยู่ มีคนมายืมไป.. |
|
|
เป็นไงครับดูแล้วไม่ยากใช่ใหม่ แต่ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยต่างๆ ลองไปศึกษาดู ตอนที่เรารอมันโต ก็ได้ครับ..ในหัวข้อ..นานาสาระกับการปลูกพืชไม่ใช้ดิน. หวังว่าหลายๆท่านคงจะลองไปทำดูนะครับ..หรือถ้าไม่อยากยุ่งยาก..ในการไปเดินหาซื้อของที่ละอย่างสองอย่างก็แวะมีซื้อชุดนี้ที่ร้านได้ครับ..ราคา 350บาทพรัอมสารละลาย 500 cc.1 คู่ปลูกไปประมาณ 4 รอบครับ..กะเมล็ดพันธ์ อีก 1 ถุง..ประมาณ 10 เมล็ดได้..หุหุ แต่ถ้าปลูกผักไทย ละก็เอาไปเลย 1 ขยุม..
|
|
แล้วพบกันใหม่นะครับ..กับ D.I.Y อื่นๆ ต่อไป.. |
ปล.เข้ามาให้กำลังใจคนเขียนที่ กระดานสนทนาบ้างนะครับ..จะได้รู้ว่าไอ้ที่ทำไปเนียมีคนอ่าน.. |